“พื้นที่สติในใจคุณ”
ในวันที่เราต่างเหนื่อยล้า หอบงานและความคาดหวังในชีวิตไว้จนบ่าบวมซ้ำ เวลาเดินหน้าไม่หยุดรอ 1 ปีผ่านไป 2 ปีผ่านไป 3 ปีผ่านไป... หรือยาวนานกว่านั้น ความสดใสในแววตาของเราค่อย ๆ ถูกกลืนหาย เวลาชีวิตเราถูกลอยแพไปในแม่น้ำสายใหญ่นามว่า “กรุงเทพ”
จะดีแค่ไหน หากระหว่างขณะเราเดินทางไปในเมืองใหญ่ที่แออัดไปด้วยความฝันของผู้คนหลากหลายนี้ จะคอยมี “ข้อความ” เด้งขึ้นมาทักทาย คอยผ่อนคลายบรรเทา “ความรู้สึกในใจ” เราบ้าง
“วันนี้เป็นไงบ้าง..?” “ทำงานเหนื่อยไหม..? ” “ลืมกินข้าวหรือเปล่า..” “ได้พักบ้างหรือยัง.. ?” “กำลังทำอะไรอยู่นะ.. ?” “วันหยุดมีแพลนไปเที่ยวไหนบ้างหรือเปล่า.. ?” “ร้องไห้ได้นะ.. ” “วันนี้ เธอทำดีได้ดีที่สุดแล้ว” ฯลฯ

นี่เป็นเรื่องราวเริ่มต้นของการเกิดขึ้นของ “สติ Space” พี่แอน - ศศวรรณ จิรายุส หัวหน้าฝ่ายสื่อสารงานธรรม - ส่วนสร้างสรรค์และกิจกรรมพิเศษ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เล่าว่าแนวคิดของสติ Space เริ่มต้นจากการมองเห็น “พื้นที่ว่าง” จากพื้นที่หลากหลายในชีวิตตนเอง เช่น หน้าจอโทรศัพท์ จอโรงหนัง จอไฟแดง จอทีวี ฯลฯ รวมถึงพื้นที่เว้นว่างที่น่าจะทำประโยชน์อะไรได้มากมายกว่าการเว้นไว้ให้คนผ่านไปมา
เธอบอกว่าหากเราออกแบบ “พื้นที่ว่าง” เหล่านี้ให้สื่อสารกับ “มนุษย์เมือง” ได้ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ช่วยให้ผู้คนในเมืองใหญ่ที่ต่างกำลังประสบกับภาวะความเครียด ความเหงา ซึมเศร้า เฉา กระทั่งท้อแท้ในชีวิต สามารถได้รับกำลังใจและการสื่อสารที่ช่วยสร้าง “พื้นที่สติ” ให้เกิดขึ้นภายในใจของพวกเขา
“เรามีความรู้สึกว่าในแต่ละวันที่คนเครียด คนเป็นโรคซึมเศร้า แล้วคนข้าง ๆ ก็ไม่ได้มาคุยกับเรา คือทุกคนหันไปทางไหนก็อยู่แต่กับจอ.. แล้วสิ่งที่เราเห็นอยู่ในจอ มันไม่ค่อยมีอะไรมาเป็น ‘กัลยาณมิตร’ เราเลย ถ้ามันไม่ขายของเรา มันก็หลอกลวงเรา มันก็ชวนเราไปด่าเขา หรือไม่ก็ชวนให้เราดำดิ่งไปกับอะไรสักอย่างหนึ่ง
“ก็เลยคิดมาว่า.. แล้วถ้าจอนี้มันมีช่วงเวลาสักนิดที่ใจดีกับผู้คน น่าจะดี เช่น ถามว่า ‘วันนี้เป็นไงบ้าง ?’ ถ้ามันถามเราสักนิด เราคงรู้สึกดีนะ หรือ นั่ง ๆ อยู่บนรถไฟฟ้าแล้วถาม ‘ลืมกินข้าวหรือเปล่า ?’ ‘อ่านหนังสือหนักไปไหม ?’ ‘เดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะ’.. อะไรก็ได้ คือ ถ้าเกิดเรามีเพื่อนเป็นจอ แล้วจอมันสื่อสารกับเราได้ อันนั้นคือที่ของ สติSpace..
“คำว่า ‘สติ Space’ คือ การสร้างพื้นที่รอบตัวเรา เพื่อให้กลับเข้าไปเกิดพื้นที่แห่งสติภายในใจเรา.. พื้นที่หรือสิ่งของที่สติ Space ทำมาทั้งหมดนั้นสำคัญไม่มากเลย แต่มันจะสำคัญหรือประสบผล เมื่อสามารถย้อนกลับเข้าไปในใจได้ แล้วทำให้ความรู้สึกเศร้า เหงา โกรธ เครียด ฯลฯ คลายลงจนกลายเป็นความว่างได้ และเป็นพื้นที่ที่มี ‘สติ’ อยู่ข้างใน”
คำถามคือ แล้ว ‘สติ’ คืออะไร ? และสำคัญอย่างไร ? พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดสุคะโต จ.ชัยภูมิ ท่านได้ให้คำตอบไว้ว่า

“สติ ความหมายคือ การระลึกได้ เช่น เรานึกได้ว่าเมื่อวานนี้เราไปกินข้าวที่ไหน เราคุยกับใคร อันนี้คือสติ สติแบบนี้เราใช้ในชีวิตประจำวัน ขาดไม่ได้เลย เวลาเราไปทำงาน เราก็จำได้ว่าจะใช้ถนนเส้นไหน สำนักงานเราอยู่มุมไหนของเมือง เราเอาความรู้ที่จดจำมาใช้ในการทำงาน อันนี้คือสติที่เรามีในชีวิตประจำวัน
“แต่ความระลึกได้อีกอย่างหนึ่ง คือ ความระลึกได้ว่าปัจจุบันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ สติแบบนี้เราเรียกว่า ‘สัมมาสติ’ มีลักษณะพิเศษต่างจากสติทั่ว ๆ ไปที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ก็คือ หนึ่ง เป็นความระลึกได้ในปัจจุบัน ไม่ใช่ระลึกได้ในเรื่องอดีต สอง ไม่เป็นการระลึกได้ถึงสิ่งที่อยู่นอกตัว แต่เราระลึกได้ในเรื่องกายและใจ ทำให้เรารู้ทันความคิดและอารมณ์ และทำให้เราหลุดจากความคิดและอารมณ์
“สติเช่นนี้สำคัญมาก เพราะบ่อยครั้งเราใจลอย ตอนที่เราใจลอย เราลืมไปเลยนะว่าเราอยู่ที่ไหน เรากำลังทำอะไร และถ้าเราใจลอยไปยาว ๆ นาน ๆ เราก็อาจจะทำงานไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวเลย สติในความหมายที่ระลึกได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบัน ช่วยให้ชีวิตเราผิดพลาดน้อยลงและผาสุกมากขึ้น ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือ ทำให้เรารู้ทันความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเรารู้ทันความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ใจเราหลุดจากความคิดและอารมณ์นั้น กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ทำให้รู้เนื้อรู้ตัว
“คนเราทุกวันนี้ เราทุกข์เพราะความคิด ทุกข์เพราะอารมณ์ที่มันถาโถมเข้ามาในใจ ‘สัมมาสติ’ สำคัญตรงที่ว่ามันช่วยทำให้เราไม่ลืมตัว เพราะคนเราเนี่ยพอมีความคิดฟุ้งซ่านมาก ๆ หรือมีอารมณ์อกุศลครอบงำมาก ๆ ก็ลืมตัว และพอเราลืมตัวแล้ว เราก็อาจจะเผลอทำสิ่งที่ไม่ดี เช่น พูดต่อว่าด่าทอคนอื่น ทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูดหรือการกระทำ หรือมิเช่นนั้นก็ถูกอารมณ์ครอบงำจนกระทั่งเกิดความทุกข์ เกิดความเครียด กลุ้มอกกลุ้มใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อาจจะถึงขั้นคลุ้มคลั่ง แล้วก็ทำร้ายตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากในปัจจุบัน
“เพราะฉะนั้นถ้าเรามี ‘สัมมาสติ’ ครองใจ เราก็จะมีจิตใจที่ปลอดโปร่ง โล่ง สบาย เราจะไม่ลืมเนื้อลืมตัว ทำอะไรด้วยความรู้เนื้อรู้ตัว ทำได้อย่างถูกต้อง ความเครียดก็จะมารบกวนจิตใจน้อยลง สัมสมสติเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยมีในชีวิตประจำวัน ถึงมีก็มีน้อย เพราะฉะนั้นเราจึงควรสร้างมันขึ้นมา ด้วยการหมั่นปฏิบัติ หมั่นฝึกจิตฝึกใจของตนและสติของเราก็จะงอกงาม และเมื่อสัมมาสติพัฒนาขึ้นก็จะครองจิตครองใจ รักษาจิตรักษาใจของเรา ทำให้ชีวิตของเรามีความผาสุก ทำให้เราสามารถเอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่นน้อยลง”

แล้วเพื่อน ๆ มนุษย์เมืองอย่างเราจะสามารถฝึกฝนพัฒนา ‘สัมมาสติ’ ได้อย่างไรกันบ้าง สติ Space ขอแนะนำกิจกรรมหลากหลายให้เพื่อน ๆ ได้ทดลองกันดูนะคะ คลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ https://satispace.org/suan-mokkh/elearning/
เพื่อน ๆ สามารถรับฟังวิดีโอ ‘ความหมายของสติ’ โดย ‘เครือข่ายพุทธิกา Buddhika Network’ ได้ที่ลิงก์ https://www.youtube.com/watch?v=OtdrFe98oJ8 . ติดตามทุกกิจกรรมและการเดินทางของพวกเราได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “สติ Space” และเว็บไซต์ https://satispace.org/ พื้นที่ที่ชวนเพื่อน ๆ มารู้ตัว ดูใจไปพร้อมกับเรา แล้วพบกันค่ะ