ในโลกการทำงานที่เร่งรีบนี้ เราทุกคนต่างวิ่งตามเป้าหมายเดียวกัน: ความสุข แต่บ่อยครั้งเราถูกสอนให้เชื่อว่าความสุขนั้นมาพร้อมกับ เงินเดือนที่สูงขึ้น, ตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น, หรือโบนัสก้อนโต ความสุขแบบนี้ไม่ผิด… แต่ก็เหมือนกับการดื่มกาแฟช็อตแรกที่ทำให้ตาตื่น มันให้พลังงานอย่างรวดเร็วแต่ก็หมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อได้แล้วก็อยากได้อีกเรื่อย ๆ และเมื่อไม่ได้ตามที่หวัง ความรู้สึกผิดหวังก็เข้ามาแทนที่
นี่คือสิ่งที่ อริสโตเติล นักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ชาวกรีกเรียกว่า “Hedonia”—ความสุขจากความพึงพอใจชั่วคราว เป็นความสุขที่เกิดจากสิ่งภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ทั้งหมด และมันไม่มีทางเพียงพอ
ค้นหาความสุขที่ยั่งยืน: Eudaimonia
อริสโตเติลสอนเราว่า ยังมีความสุขอีกแบบที่ลึกซึ้งและยั่งยืนกว่ามาก นั่นคือ “Eudaimonia” ซึ่งหมายถึง “การเติบโตและเบ่งบานอย่างเต็มศักยภาพของมนุษย์”
ลองนึกภาพต้นไม้ที่เติบโตอย่างแข็งแรงด้วยการได้รับแสงแดดและน้ำอย่างเพียงพอ นั่นคือ Eudaimonia ของต้นไม้ และสำหรับเรา Eudaimonia คือความสุขที่เกิดจากการได้ใช้ความสามารถของเราอย่างเต็มที่เพื่อสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้ผู้อื่น
ความสุขแบบ Eudaimonia จึงไม่ได้มาจาก “รางวัล” ที่งานมอบให้ แต่มาจาก “ความหมาย” ที่เราใส่เข้าไปในงานนั้น:
- งานนี้ช่วยใคร? ความรู้สึกที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นคือพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุด ลองนึกถึงพยาบาลที่ต้องทำงานหนักในห้องฉุกเฉิน หรือวิศวกรซอฟต์แวร์ที่กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลตลาดได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นงานที่ท้าทาย แต่ความสุขที่ได้เห็นชีวิตของคนอื่นดีขึ้นเพราะผลงานของเรานั้นไม่อาจหาซื้อได้ด้วยเงิน
- งานนี้ดึงศักยภาพของคุณออกมาแค่ไหน? งานที่ทำให้เราได้ใช้ทักษะที่เราเชี่ยวชาญ ได้แก้ปัญหาที่ซับซ้อน หรือได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ จะกระตุ้นความรู้สึกเติมเต็มอย่างลึกซึ้ง นี่คือความสุขที่เติบโตไปพร้อมกับคุณ ไม่ใช่ความสุขที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
- งานนี้สอดคล้องกับคุณค่าของคุณหรือไม่? เมื่อคุณค่าส่วนตัวของคุณ เช่น ความซื่อสัตย์ ความเมตตา หรือความยุติธรรม สอดคล้องกับสิ่งที่องค์กรหรือตำแหน่งของคุณทำในแต่ละวัน คุณจะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองและในงานที่ทำ ความสุขแบบนี้จะสร้างเกราะป้องกันความรู้สึกไม่มั่นคงจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
ทำงานด้วย “คุณธรรม” ในทุกวัน
อริสโตเติลเชื่อว่าความสุขที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราทำงานด้วย “คุณธรรม” (virtue) ซึ่งไม่ได้หมายถึงหลักการทางศาสนา แต่คือ “นิสัยที่ดีที่เราฝึกฝนจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”
ในการทำงาน คุณธรรมอาจหมายถึง:
- ความซื่อสัตย์: ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เอาเปรียบใคร แม้ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครเห็นก็ตาม
- ความรับผิดชอบ: ทำให้ดีที่สุดในทุกงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ตาม
- ความกล้าหาญ: กล้าที่จะพูดเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือเสนอความคิดสร้างสรรค์แม้จะมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลว
- ความเมตตา: ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานอย่างจริงใจ ให้คำแนะนำ และยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น
เมื่อคุณทำงานด้วยคุณธรรม คุณจะรู้สึกมั่นคงและมี “เข็มทิศภายใน” ที่นำทาง ไม่ว่ายอดขายจะขึ้นหรือลง คำชมจะมาหรือไม่ คุณก็รู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องและมีคุณค่า
ตัวอย่างร่วมสมัย
- แพทย์ที่ยืนหยัดรักษาผู้ป่วย แม้รายได้จะไม่สูงเท่าอาชีพบางอย่าง แต่ความสุขของเขามาจากการช่วยชีวิตผู้อื่น—นี่คือ Eudaimonia
- ครูที่ทุ่มเทสอนเด็กในพื้นที่ห่างไกล แม้ไม่มีชื่อเสียงหรือเงินเดือนมาก แต่เธอรู้ว่างานที่ทำเปลี่ยนชีวิตเด็ก ๆ ได้—นี่คือ Eudaimonia
- ผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจเพื่อสังคม อาจเหนื่อยกว่าธุรกิจทั่วไป แต่เขามีความสุขที่เห็นคนอื่นได้รับโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น—นี่ก็ Eudaimonia
ผลต่อสังคม
ถ้าเรายึด Hedonia เป็นหลัก → สังคมเต็มไปด้วยการแข่งขัน เอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์เฉพาะหน้า เกิดปัญหาความเครียด ความเหลื่อมล้ำ และ burnout แต่ถ้าเรายึด Eudaimonia → เราจะสร้างสังคมที่งานไม่ใช่เพียงการแย่งทรัพยากร แต่เป็นการร่วมกันสร้างคุณค่า เกิดความร่วมมือ ความไว้วางใจ และความสุขที่ยั่งยืนกว่า
นี่คือเหตุผลที่หลายองค์กรสมัยใหม่เริ่มหันมาเน้น “purpose” หรือ “core value” ของการทำงาน พวกเขารู้ว่าเงินเดือนและโบนัสซื้อได้เพียง Hedonia แต่สิ่งที่จะทำให้พนักงานอยู่กับองค์กรอย่างภาคภูมิใจคือ Eudaimonia—การรู้ว่างานที่ทำมีคุณค่าต่อโลก
สรุป
อริสโตเติลสอนเราว่า ความสุขมีสองแบบ: Hedonia ที่สั้นและผันผวน กับ Eudaimonia ที่มั่นคงและยั่งยืน สำหรับการทำงาน Hedonia คือเงินเดือน คำชม และตำแหน่ง ส่วน Eudaimonia คือการทำงานที่สอดคล้องกับคุณค่า ความหมาย และคุณธรรมของชีวิต ดังนั้น หากเราอยากมีความสุขในการทำงานจริง ๆ คำถามสำคัญไม่ใช่ “งานนี้ให้ผลตอบแทนเท่าไร” แต่คือ “งานนี้ทำให้ฉันเป็นคนที่อยากเป็นหรือไม่” และ “มันสร้างคุณค่าให้โลกอย่างไร” เพราะสุดท้ายแล้ว ความสุขที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากการไล่ตามเปลือกภายนอก แต่เกิดจากการเข้าถึงแก่นแท้ของการทำงาน—ซึ่งก็คือ การเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และเป็นประโยชน์